Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - guupost

Pages: [1] 2 3 4
1


ตู้เย็น Mitsubishi เป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนตกลงใจเลือกใช้งาน ด้วยประสิทธิภาพความเย็น ช่วยทำให้ของสดยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ ทว่าอีกข้อที่เราต้องทำกันเป็นประจำก็คือการล้างทำความสะอาดดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งท่านใดที่กังวลจริง ๆ อยากบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการดูแลทำความสะอาด ยืนยันว่าไร้คราบ ไม่มีกลิ่น แต่จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามรายละเอียดกันได้

แนะนำการดูแลตู้เย็น Mitsubishi แบบ 2 ประตู
1. ขั้นตอนการทำความสะอาดภายในตู้เย็น
- เตรียมความพร้อม : ให้เตรียมความพร้อมก่อนทำความสะอาดโดยให้ลงมือเช็ดตู้เย็นทุกซอกมุม จัดการกับสารพัดสิ่งของที่มีในตู้เย็น ซึ่งหลัก ๆ คือต้องแยกของกินได้  และของแช่ปกติ อย่าพลาดดูวัน/เดือน/ปีที่หมดอายุด้วย พร้อมจัดการลำดับสิ่งที่ควรใช้ไว้หน้า ๆ ถ้าหมดอายุก็ให้นำออกมาทิ้งได้เลย เมื่อจัดการเรียบร้อยก็ถอดปลั๊กตู้เย็น แล้วละลายน้ำแข็ง
- จัดการทำความสะอาด : ต่อมาก็ให้คุณลงมือทำความสะอาดได้เลย โดยให้เช็ดให้ครบด้านนอก ด้านใน รวมทั้งขอบยางที่ประตูด้วย วิธีการใช้เจือจางน้ำสบู่อ่อน ๆ มาเช็ดที่ผิวตู้เย็น และจัดการคราบเลอะ สิ่งสกปรกได้ดี พร้อมมีกลิ่นอ่อน ๆ หอม ๆ ด้วย ไม่ทำลายพื้นผิว และยังใช้ได้ทั้งด้านนอกด้านในตู้ได้ด้วย ส่วนชั้นด้านในให้ถอดเอาออกมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานก่อนที่จะผึ่งแห้ง
- ประกอบชิ้นส่วนพร้อมใช้งาน : และสุดท้ายคือการจัดการ ตู้เย็น mitsubishi 2 ประตู ให้พร้อมใช้งานได้เลยโดยการประกอบชั้นเข้าไปด้านใน แล้วเสียบปลั๊กให้พร้อมใช้งานได้เลย อย่างที่บอกคัดแยกจัดหมวดหมู่ด้วย เพื่อการหยิบจับที่ง่ายดายมากขึ้น และระบายของออกได้ทันใช้วัน/เดือน/ปีที่หมดอายุ

2. จัดการตู้เย็นให้สะอาด ไร้คราบ ปราศจากกลิ่น
- ทำความสะอาดด้านในไร้สารเคมี ไร้สารตกค้าง : การทำความสะอาดจริง ๆ แล้วนอกจากสบู่อ่อน หรือน้ำยาล้างจาน อีกสิ่งที่ช่วยได้คือน้ำส้มสายชู ทำให้ตู้เย็นสะอาดมากขึ้น ไร้กลิ่นอับ และไม่เป็นอันตรายจากสารเคมีที่อาจตกค้าง
- จัดการกลิ่นอับ : ด้วยความที่อาหารมีสารพัดกลิ่น เอามาไว้ในตู้เย็น 2 ประตู Mitsubishi ก็มีเยอะแยะไปหมด แนะนำว่าให้เอาถ่านไม้ เบกกิ้งโซดา หรือผงกาแฟ มาวางไว้ แล้วเปลี่ยนทุก 3 เดือน หรือถ้าจะใช้เป็นมะนาว ส้ม มะกรูดก็เปลี่ยนทุก 1 – 2 อาทิตย์
- จัดการเชื้อรา : ใช้น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าช่วยเช็ดทำความสะอาดได้ดี ลดปัญหากวนใจ ใครเพิ่งซื้อตู้เย็นมาใหม่รีบเอามาเช็ดด่วน ๆ
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วใครที่มีตู้เย็น Mitsubishi ใช้งานกันมาแล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดกันโดยสามารถนำเอาวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ได้เลย ได้ตู้เย็นสะอาดเหมือนใหม่ ความเย็นใช้งานเพิ่มอุณหภูมิกับของแช่ต่อได้ไม่ติดขัด

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP09?b=mitsubishi

2


เชื่ออย่างยิ่งว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเมื่อคิดจะทำสนามหญ้าหน้าบ้านต้องมีการเลือกใช้งานหญ้าเทียม แต่กระนั้นก็กลายเป็นคำถามที่สงสัยขึ้นมาด้วยเช่นกัน ว่าหากเลือกหญ้าชนิดนี้ใช้งานแล้วการดูแลรักษาจะยากกว่าหญ้าจริงไหม?? หากไม่ต้องการให้ต้องเป็นคำถามสงสัยอีกต่อไป ก็มีรายละเอียดมาให้ศึกษาว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่า

ไขข้อสงสัย.. หญ้าเทียมดูแลรักษายากกว่าหญ้าจริงหรือเปล่า?
ก่อนอื่นเลยอยากให้ได้ทำความเข้าใจเล็กน้อยถึงความสำคัญที่ทำให้หลายคนเลือกใช้งานหญ้าจำพวกนี้มากกว่าหญ้าจริง ก็เพราะมีส่วนช่วยในการเพิ่มความเขียวขจีให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ที่เราต้องการปูพื้นหญ้าได้อย่างดี ทำให้ดูสดใสสวยงามสมใจ เป็นธรรมชาติมาก ๆ โดยเรานั้นไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องมาคอยตัดตกแต่งให้สั้น ๆ

ทั้งยังทนทานแสงแดด ทนฝนฟ้าคะนองได้อย่างดี ที่สำคัญคือไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลานด้วยเหตุเพราะไม่มีดิน ไม่มีหญ้ารกกวนใจ พร้อมช่วยป้องกันการกระแทกเมื่อหกล้ม ลื่นล้ม ฯลฯ แต่กระนั้นก็เกิดเป็นความสงสัยต่อไปอีกเรื่องการดูแลรักษา ว่าหากเราเลือกใช้งานหญ้าเทียมปูพื้นแบบนี้จะยากกว่าหญ้าจริงไหม?? เราไม่รอช้ามีคำตอบมาให้ค้นหา
- หญ้าชนิดนี้นั้นไม่มีปัญหาในการดูแลเลยแม้แต่นิดเดียว และอายุการใช้งานก็ยาวนานมากด้วย แค่เรื่องที่ต้องคำนึงก็คือการติดตั้ง
- กรณีที่โดนน้ำมันต่าง ๆ ที่หญ้านี้แล้วมีคุณสมบัติเป็นน้ำมันที่กัดกร่อน ให้คุณรีบแช่น้ำเปล่าได้เลยครึ่งชั่วโมง แล้วจึงเอาแปรงซักผ้ามาถูเบา ๆ แล้วล้างให้สะอาด จากนั้นให้นำไปตากลมให้แห้ง แล้วจึงค่อยกลับมาติดตั้งใช้งานใหม่
- ถ้าเปื้อนเศษดิน โคลน หรือคราบมันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้มีฤทธิ์กัดกร่อน ให้คุณ ๆเอาแปรงซักผ้ามาขัดออกเบา ๆ ได้เลย ต่อจากนั้นก็ใช้น้ำเปล่ามาฉีดล้างออกได้เลยง่าย ๆ
- หากต้องการซักล้างทำความสะอาดหญ้า ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรือผงซักฟอกเนื่องด้วยจะทำให้สีของหญ้าซีดได้ แม้จะซื้อหญ้าเทียม ราคาถูก หรือแพงก็มีความเสี่ยงได้ทั้งสิ้น

อย่างไรแล้วเรื่องของการเลือกหญ้าเทียมก็สำคัญไม่น้อย โดยเราต้องพินิจพิเคราะห์จากหลาย ๆ ปัจจัยเพื่อให้เลือกได้ใช้งานตอบโจทย์ ไม่ว่า เรื่องสถานที่ที่จะติดตั้ง ขั้นตอนการติดตั้ง การดูแลทำความสะอาดที่อาจเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยได้ด้วย สีของหญ้าที่ปัจจุบันมีให้เลือกเยอะ บางยี่ห้อก็มีสีน้ำตาลแซมมาให้ดูเป็นเหมือนหญ้าจริง ๆ เลยทีเดียว รวมไปถึงความสูง ความหนาของหญ้าที่สนใจซื้อ และวัสดุในการผลิตที่ควรมีคุณภาพ ไม่ฉีกขาดง่าย

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0401

3


พ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะใครที่ขายของออนไลน์ คงปฏิเสธการใช้งานกล่องกระดาษส่งพัสดุไปไม่ได้เลยจริง ๆ ซึ่งกล่องที่ว่านี้มีความสำคัญมาก ๆ เพราะนับว่าเป็นตัวช่วยในการป้องกันสิ่งของภายใน จัดส่งสะดวก ได้รับสินค้าที่ต้องการในสภาพดี แม้กระนั้นการเลือกใช้งานนับว่าเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสนใจไม่น้อย แต่จะมีเรื่องใดบ้างไปติดตามค้นหาคำตอบกันดีกว่า

กล่องกระดาษส่งพัสดุกับเรื่องที่ควรให้ความเอาใจใส่ใช้งาน
1. เป็นกล่องที่มีให้เลือกหลากหลายขนาด
เป็นเรื่องที่ผู้ขายควรต้องให้ความเอาใจใส่มาก ๆ เลยทีเดียว กับการใช้งานส่งสินค้าที่ควรต้องเหมาะกับขนาดมากที่สุด อย่างกล่องไปรษณีย์ขนาดมีให้เลือกมาก ตั้งแต่ขนาดเล็กสุด ไปจนถึงขนาดใหญ่สุดที่สามารถบรรจุสินค้าชิ้นใหญ่ได้ เราจำเป็นจะต้องเลือกใช้ให้ดี เพื่อการใส่สินค้าตอบโจทย์ที่สุด ไม่เกิดความเสียหายกับสินค้าได้ง่าย ๆ

2. เป็นกล่องที่มีความทนทานไม่น้อย
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นกล่องพัสดุกระดาษก็คงจะไม่ค่อยทนมาก เนื่องจากโดนน้ำก็คงเปื่อย แต่แท้จริงแล้วท่านสามารถเลือกซื้อเลือกหากับร้านที่มีการผลิตกล่องแบบแข็งแรงทนทานได้ ช่วยในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าได้ดีมาก ๆ ป้องกันการกระแทก ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ไม่ให้เสียหาย ทั้งยังเป็นกล่องที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ ด้วยหากสินค้าไม่ได้มีน้ำหนักมากก็ช่วยให้การเคลื่อนย้ายหยิบจับง่ายมากขึ้น

3. มีการผลิตที่ดีคุณภาพสูง ทันสมัย
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีการผลิตกล่องพัสดุประเภทกระดาษนั้นพัฒนาไปอย่างก้าวไกลอย่าง กล่องไปรษณีย์ก็มีให้เราเลือกทั้งที่เป็นสีน้ำตาล เปิดปิดธรรมดา และกล่องสีขาวที่หนาและเป็นแบบพับลงปิดอีกที ทั้งยังสามารถเลือกกล่องที่พิมพ์ลายได้ด้วย ทำให้ได้รูปแบบที่สวยงาม บางกล่องพิมพ์เป็นคำว่า Thank you รอบกล่องเพื่อแสดงถึงการขอบคุณลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ากัน เสริมสร้างความเป็นเอกลักษณ์ไปในตัวได้เลยเชียว

4. เป็นกล่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นกล่องบาง กล่องหนาใด ๆ แล้วก็คืองานกล่องที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือนำไปรีไซเคิลได้ง่าย ๆ นับเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับยุคสิ่งแวดล้อมที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ไม่ทำให้เกิดปัญหาทางระบบธรรมชาติ ซึ่งก็ทำให้เราใจชื้นขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ช่วยรักษ์โลก

ในการจะเลือกใช้งานกล่องกระดาษสักใบนั้น เป็นเรื่องที่ท่านต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน แนะนำว่าเลือกซื้อกับร้านที่มีมาตรฐาน อย่างที่ทำการไปรษณีย์ก็มีให้เราเลือกหลากหลายเพื่อให้การใช้สินค้าของคุณเหมาะสม ส่งถึงมือใช้งานโดยไม่มีปัญหาชำรุดเสียหาย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านได้เป็นอย่างดี

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0801

4


วิธีการซักผ้าให้สะอาดนั้นมีให้ท่านได้นำไปปรับใช้มากมาย แต่ทราบหรือไม่ว่า “ทิชชู่เปียก” ที่เราเห็นกันทั่วไป หรือบางคนก็ใช้งานเช็ดมืออยู่นั้นสามารถเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดขึ้นได้ไปอีก สามารถนำเอาไปใส่ในเครื่องซักผ้าได้ทุกครั้งเลยด้วย ทว่าใครที่ไม่เคยทราบมาก่อน และอยากทำความเข้าใจมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเลยเชียว เนื่องจากเรามีมาให้ศึกษาอย่างเจาะลึก

การใช้ทิชชู่เปียกใส่ในเครื่องซักผ้าช่วยเสื้อผ้าสะอาดหมดจด
เราอาจจะต้องทำความเข้าใจถึงกระดาษทิชชู่เปียกก่อน ซึ่งสิ่งนี้ทำมาจากผ้าชนิดที่ที่ชื่อ Spunlace non – woven ที่วัตถุดิบจะขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ ก็จะได้ลักษณะที่ต่างกันออกไป ผิวสัมผัสก็จะมีไม่เหมือนกันด้วย เราสามารถเอามาใช้ได้ไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่อย่างเราสามารถใช้เช็ดมือ เช็ดหน้าซับเครื่องสำอาง บางแบรนด์ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ใยไผ่พลาสติก ที่มีผสมน้ำ 90 – 95% บางยี่ห้อก็มีน้ำหอมปนอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องกังวลเนื่องมาจากสามารถนำไปใช้ซับหน้าได้
โดยเรื่องการนำทิชชูลักษณะนี้เอาใส่เครื่องซักผ้าเพื่อให้การทำความสะอาดหมดจดมากขึ้นนั้น จะเป็นเครื่องแบบฝาหน้า หรือฝาบนใด ๆ แล้วใช้งานได้หมดทั้งสิ้น โดยแนะนำให้เอาใส่ไปประมาณ 3 – 4 แผ่น แล้วเอาผ้าใส่ลงไปด้วย จากนั้นก็เปิดเครื่องซักตามปกติได้เลย ให้ตัวถังหมุนรอบทำความแรงตามปกติ  ซึ่งกระดาษทิชชูนี้ก็จะหมุนตามเครื่องไปด้วย และการหมุนไปพร้อม ๆ กับผ้านั้นจะสามารถช่วยดักจับสิ่งที่ไม่เหมาะสม อาทิ ขนแมว ขนสุนัข เส้นขน ขนสัตว์เลี้ยง หรือเศษสิ่งสกปรก หรือเศษกระดาษชำระที่เราลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อผ้า

คำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งานกระดาษทิชชู่ประเภทนี้
ก่อนที่เราจะใช้งานก็จำเป็นต้องรู้ถึงคำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดมากที่สุด โดยมีด้วยกันดังต่อไปนี้
- กระดาษทิชชูสามารถใส่ในเครื่องซักผ้าได้ แต่ไม่ควรใส่มากเกินจนไป เนื่องด้วยจะทำให้เกิดการอุดตันได้
- กระดาษทิชชูนี้ขาดง่าย ยุ่ยง่าย หากเสื้อผ้าเยอะเกินไปก็อาจจะทำให้ติดเสื้อผ้าได้
- ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์บางแบรนด์อย่างที่บอกมีน้ำหอมผสม ช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอม แต่ก็ต้องระวังหากใช้กับเด็ก เหตุเพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้
- เมื่อเราใช้กระดาษทิชชูประเภทนี้ซักแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำอีก เพราะว่าจะกลายเป็นไม่สะอาดแทนแล้ว

ทิชชู่เปียกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยคุณจัดการสิ่งสกปรกของเสื้อผ้าได้อย่างดี แต่ก็ต้องใช้งานให้เหมาะตามคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคุณสามารถนำวิธีการใช้งานกระดาษทิชชูนี้ไปปรับใช้ได้เลยทันที ยืนยันว่าผลลัพธ์ความสะอาดอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0215

5


ในการใช้งานกระดาษทิชชู่นั้นนับว่าจะปลอดภัยได้ต่อเมื่อมีการตรวจสอบมาตรฐาน มอก. ด้วย แต่บางท่านอาจจะยังไม่เคยรู้จักมาก่อน และคงต้องการศึกษา เพื่อการนำไปเป็นแนวทางเลือกใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งหากท่านใดที่พร้อมศึกษาข้อมูลแล้วอย่ารอช้ารีบตามเรามาทางนี้โดยด่วน

การทดสอบสอบมาตรฐาน มอก. ของกระดาษทิชชู่
1. ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้า
มาเริ่มกันที่ทิชชู่เช็ดหน้าที่ควรต้องมีการตรวจสอบมาตรฐาน มอก. ด้วย โดยกระดาษประเภทนี้อธิบายให้เข้าใจมากขึ้น ก็คือกระดาษที่มีไว้เพื่อเช็ดหน้า เป็นลักษณะย่น ๆ สะอาด นุ่ม ดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดี และเมื่อเปียกน้ำแล้วก็จะไม่ฉีกขาดง่าย ๆ ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้ว จะมีด้วยกัน 3 ลักษณะ คือ ประเภทเนื้อกระดาษเยื่อผสม ชนิดเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ชนิดเนื้อเวียนใหม่ มีให้เลือกได้ทั้ง 2 ชั้น 3 ชั้น ถามว่าต้องมีการทดสอบด้านใดบ้าง??
- มาตรฐาน ISO 12625-6 ทดสอบเรื่องมวลมาตรฐาน (Grammage) หน่วย g/m2 
- มาตรฐาน ISO 15755 ทดสอบเรื่องความสะอาด จะวัด พื้นที่จุดสกปรก (Dirt Area) และจำนวนจุดสกปรกที่มีขนาด 0.03 mm2 ขึ้นไป
- มาตรฐาน ISO 12625-8 ทดสอบเรื่องการดูดซึมน้ำ
- มาตรฐาน ISO 1762 ทดสอบเรื่องปริมาณขี้เถ้า (Ash Content)
- มาตรฐาน ISO 6588-1 ทดสอบเรื่องความเป็น กรด – ด่าง
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึง (Tensile) ที่ต้องทำทั้งในแนว MD และ CD
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความยืด (Elongation) เป็นลักษณะในแนว MD
- มาตรฐาน ISO 12625-5 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึงขณะเปียกเป็นลักษณะในแนว MD

2. กระดาษสำหรับชำระ
อีกประเภทที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้สำหรับกระดาษชำระ โดยจะเป็นลักษณะการนำไปใช้เพื่อทำความสะอาดหลังการขับถ่าย มีความย่น ๆ นุ่ม เส้นใยละเอียดดูดซับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อกระจายในน้ำสามารถแยกจากกันได้ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือชนิดเนื้อกระดาษเยื่อผสม แบบเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ชนิดเนื้อเวียนใหม่เหมือนกัน ใช้งานได้ในลักษณะแบบแผ่น หรือแบบม้วน ที่มีทั้งม้วนเล็ก ม้วนใหญ่ มีให้เลือกได้ทั้ง 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น
- มาตรฐาน ISO 12625-6 ทดสอบเรื่องมวลมาตรฐาน (Grammage) หน่วย g/m2
- มาตรฐาน ISO 15755 ทดสอบเรื่องความสะอาด จะวัดพื้นที่จุดสกปรก (Dirt Area) และจำนวนจุดสกปรกขนาด 0.03 mm2 ขึ้นไป
- มาตรฐาน ISO 12625-8 ทดสอบเรื่องการดูดซึมน้ำ
- มาตรฐาน ISO 1762 ทดสอบเรื่องปริมาณขี้เถ้า (Ash Content)
- มาตรฐาน ISO 6588-1 ทดสอบเรื่องความเป็น กรด – ด่าง
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึง (Tensile) ทั้งในลักษณะแนว MD และ CD
  - มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความยืด (Elongation) ในลักษณะแนว MD
ทั้งนี้ ลักษณะกระดาษทิชชูที่นำมาใช้ทดสอบจะเป็นแบบที่ไม่มีรอยพับ ยกเว้น 10 แผ่นแรกและ 10 แผ่นสุดท้ายที่จะเจอรอยพับได้ ไม่มีรอยขาด ไม่มีรอยฉีก และสีที่มีต้องสม่ำเสมอด้วย หวังว่าการเลือกใช้งานของคุณ ๆจะผ่านไปได้ดีที่สุด ไม่เป็นอันตรายได้มาตรฐาน

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0213

6


ใครที่มีรองเท้าเยอะ มีหลายคู่ อีกสิ่งที่ช่วยให้รองเท้ามีระเบียบมากขึ้นก็คือ “กล่องรองเท้า” แต่การที่จะใช้งานได้อย่างยาวนานนั้น การมองหากล่องที่มีมาตรฐานเป็นข้อสำคัญ แต่เราจะเลือกได้ยังไง แน่นอนว่าการศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีเกี่ยวกับกล่องเป็นสิ่งที่คุณ ๆต้องทราบ เพื่อให้การจัดเก็บรองเท้าเป็นระเบียบมากขึ้นด้วยคุณภาพกล่องที่ใช้ได้ยาว ๆ

กล่องรองเท้าที่มีมาตรฐานดูไม่ยาก ช่วยเก็บรองเท้าเป็นระเบียบ
เราสามารถเลือกกล่องเก็บรองเท้าที่ดีที่สุดได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องวางรองเท้าให้เกะกะอีกต่อไป โดยที่กล่องนั้นเราควรต้องเลือกให้ตรงตามขนาดด้วย เพื่อให้การจัดเก็บเป็นเหมาะสมมากที่สุด อาทิ รองเท้าเป็นขนาด 8 ก็ต้องเลือกกล่องที่สามารถใส่รองเท้าไซซ์ 8 ได้ด้วย เป็นขนาดที่ช่วยให้การเก็บรองเท้าง่ายมากขึ้น มีพื้นที่แบบที่ไม่ทำให้เสียทรง ใส่แล้วไม่เข้ารูป

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสังเกตที่กล่องได้ว่าอาจจะมีรอยตำหนิ เช่น รอยยับ รอยฉีกขาด หรือฝาที่อาจจะมีบุบบ้าง แต่ก็ไม่ได้เสียหายเท่าไหร่ ทั้งอายุการใช้งานของตัวกล่องนั้นสามารถใช้ได้นาน 5 ปีขึ้นไป แต่ก็จะมีสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปคือเปลี่ยนสี มีตำหนิบ้าง แนะนำว่าให้คุณเก็บในพื้นที่ที่ไม่ถูกแดด หรือถูกฝนมาก เพื่อลดความเสี่ยงอุณหภูมิมาทำให้เสียหายไว

เพิ่มเติมกล่องชนิดพลาสติก ความแข็งแรงที่น่าใช้งาน
แต่ถึงอย่างไรกล่องใส่รองเท้าไม่ได้มีเฉพาะกล่องกระดาษเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีเป็นกล่องที่ทำจากพลาสติกใสด้วย โดยที่เราสามารถเลือกซื้อกันได้ตามความต้องการ มีขายหลากหลายรูปทรง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเอาใส่ไว้ได้ทั้ง 2 ข้าง โดยรอบปิดล้อมหมด เปิดแบบเลื่อนฝาหรือ หรือเปิดออกเป็นฝากล่องใสได้เลย

ที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก คือมีความแข็งแรงทนทานสามารถวางซ้อน ๆ กันได้ยิ่งถ้ามีจำนวนรองเท้ามาก ๆ ด้วยแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่การที่จะใช้งานได้นาน ๆ ก็ต้องอยู่ที่การดูแลด้วย และต้องบอกว่ากล่องมีลักษณะเป็นสีเหลือง ๆ หรือมีรอยร้าวได้ การดูแลกล่องรองเท้าใสจึงค่อนข้างสำคัญไม่น้อย แนะนำว่าให้หมั่นเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอภายหลังเอารองเท้าไปใช้งาน ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าไปเหยียบอะไรมาบ้าง สิ่งสกปรกตกค้างเต็มไปหมดก็คงไม่ดีอย่างแน่นอน

เราสามารถหาซื้อกล่องรองเท้าที่เป็นมาตรฐานได้เลยตามต้องการ โดยที่กล่องอาจจะมีตำหนิบ้างไม่ใช่ปัญหา แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่ากล่องแบบกระดาษก็จะใช้งานได้ไม่ยืนยาวเท่ากล่องพลาสติกใสใส่รองเท้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนด้วย สุดท้ายการมีกล่องไว้เก็บรองเท้าเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนยอมสร้างความสวยงามให้กับพื้นที่ที่จัดเก็บมากขึ้น แถมไม่ต้องรื้อมากมายด้วย สามารถหยิบรองเท้ามาสวมได้สะดวกไปอีก

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP1205

7


เพราะการใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีหลาย ๆ คนอยากมีไว้ใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ตัวเอง แต่การจะใช้งานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม เราจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายสิ่งเพื่อทำความเข้าใจและใช้งานอย่างดีที่สุด แต่จะต้องดูด้านไหนบ้าง อย่ารอช้ารีบไปกันเลยดีกว่า

ใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับได้ประสิทธิภาพ ต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้
1. ขนาดของเก้าอี้ – โต๊ะ
เป็นสิ่งที่เราต้องคิดถึงก็คือเรื่องของขนาดในการใช้งาน โดยที่ต้องมีพื้นที่ให้เพียงพอ โดยที่เราต้องพิจารณาถึงความต้องการใช้งานการใช้งานด้วย ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลากหลายขนาด ซึ่งส่วนมากจะใช้เป็นหน่วยวัดเซนติเมตร ตั้งแต่ 50 x 50 cm. ไปจนถึง 90 x 180 เซ็นติเมตร เลยทีเดียว

2. รูปแบบในการพับเก้าอี้ – โต๊ะ
ในเมื่อต้องการโต๊ะ – เก้าอี้พับ แน่นอนว่ารูปแบบการพับเป็นสิ่งสำคัญ โดยที่เราสามารถศึกษาการพับเก็บได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ พับลงด้านซ้ายพับลงด้านขวา หรือพับตรงกลาง ซึ่งเราควรเลือกโต๊ะ – เก้าอี้ที่แข็งแรงด้วย และขนาดที่พับแล้วก็ต้องเล็ก เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการจัดเก็บ การขนย้ายไปใช้งานตามพื้นที่ต่าง ๆ

3. รูปทรงที่มี
โต๊ะพับอเนกประสงค์มีให้เราได้ใช้งานหลายรูปทรง ไม่ว่าจะ ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทั้งสี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมจัตุรัส เราควรเลือกให้พอเหมาะกับพื้นที่ที่จะวาง ขนาดพื้นที่ การใช้สอยต่าง ๆ อย่าง โต๊ะทรงกลมเหมาะสมกับการใช้งานเป็นโต๊ะอาหารเข้าถึงได้ทุก ๆ มุมเท่ากัน หรือโต๊ะเหลี่ยมเอาไว้นั่งประชุมมองเห็นหน้ากันได้ดี ฯลฯ

4. วัสดุที่ใช้ทำ
วัสดุในการทำเก้าอี้ หรือโต๊ะนั้นมีให้เลือกหลายวัสดุ อาทิ ไม้อัด ลามิเนต ปาติเคิลบอร์ด หรือพลาสติกประเภทต่าง ๆ ที่ทุกอย่างมีส่วนช่วยให้แข็งแรงทนทาน ทนทุกสภาพอากาศทั้งแสงแดด และฝน สามารถใช้งานได้แบบยาวนาน อายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้น

5. ราคาที่เหมาะก็สำคัญ
ไม่ใช่เพียงเรื่องขนาด การพับ หรือรูปทรงที่มีเท่านั้น แต่สิ่งที่จะช่วยเราพิจารณาด้วยก็คือราคา ซึ่งเราควรเลือกตามราคาตลาดกลาง ที่มีราคาดีที่สุด มีคุณภาพมากที่สุด ไม่ควรเลือกราคาแพงเกินไปเพราะว่าคุณภาพวัสดุอาจจะไม่ได้ดีมากพอ หรือถูกเกินไปก็ทำให้ใช้งานระยะสั้นลงด้วยคุณภาพที่ไม่ได้ดีตามราคา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

การเลือกใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับนั้นเป็นสิ่งที่ต้องจำเป็นมาก ๆ เพื่อให้ได้ใช้งานได้ตามต้องการ แต่ก่อนที่จะตกลงใจซื้อยังมีอีกสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วย นั่นคือแบรนด์ หรือแหล่งผลิตที่ดีมีคุณภาพ อาจจะชมจากรีวิวของผู้เคยใช้งานมาก่อนก็ได้ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นอกมั่นใจในการซื้อใช้มากขึ้น

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0607

8


แน่นอนว่าบ้านไหน ๆ ก็จะต้องมีเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่าง “หม้อหุงข้าว” และเมื่อใช้งานแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดให้ดีที่สุดด้วย เหตุเพราะในการใช้งานมักจะมีเศษอาหารตกค้างอยู่ด้วยชนิดที่คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ในคราวนี้เราจึงจะมาแนะนำเพื่อให้การดูแลรักษาผ่านไปได้อย่างดี จะได้สามารถใช้งานหม้อหุงข้าวต่อไปยาว ๆ ไม่ชำรุดเสียหาย

การทำความสะอาดของหม้อหุงข้าวที่ไม่อาจละเลย
เครื่องครัวชนิดนี้นั้นมีหลายตำแหน่งที่เราควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าชั้นนอก รูระบายอากาศ ก้นหม้อ ฯลฯ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เพื่อยืดอายุการใช้งาน
1. การดูแลชั้นนอก : หากเป็นคราบน้ำมันที่ทำความสะอาดได้ยาก ให้เช็ดด้วยน้ำยาล้างจาน แต่ถ้าไม่สะอาดให้บีบยาสีฟังลงผ้าแล้วชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดเบา ๆ ได้เลย คราบน้ำมันก็จะหลุดออกได้ง่ายมาก
2. การดูแลถังด้านใน : ชั้นนอกแล้วก็ต้องดูแลชั้นในด้วย เมื่อเราเอาหม้อออกไปแล้วไม่ควรใช้น้ำยาล้างจาน ให้ใช้ผงเบกกิ้งโซดา โดยวิธีการให้เทลงไปที่ฟองน้ำ แล้วเอาฟองน้ำไปจุ่มมาเช็ดล้าง แล้วเช็ดให้แห้งอีกทีด้วยผ้าปกติ
3. รูระบายอากาศ : ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าวเล็กหรือใหญ่ ใด ๆ ก็ตามจะมีส่วนของรูระบายอากาศเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดแรงดันสูงเกินไป โดยที่ความร้อนจะระบายออกมาตรงจุดนี้ และเกิดเป็นเศษข้าวหลงเหลืออยู่ เราก็ต้องถอดออกเพื่อเอาไปล้างด้วย จากนั้นก็เช็ดขอบให้สะอาด เช็ดที่ช่องว่าง หากใครเกิดมีคราบน้ำมันติดอยู่ก็เอาน้ำยาล้างจานมาใช้เช็ดได้เช่นกัน แต่ก็ต้องล้างหลายรอบหน่อย จากนั้นก็เอาไปใช้ได้ปกติ
4. ก้นหม้อ : สุดท้ายคือการทำความสะอาดที่ก้นหม้อหุงข้าว ยิ่งเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไม่แนะนำให้เอาแปรงเหล็ก หรือสก๊อตไบร์ซมาขัด ทั้งนี้เพราะจะทำให้ก้นหม้อเสียหายได้ จากนั้นก็เอาผ้ามาชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด ๆ พร้อมเช็ดหลายครั้ง ภายหลังเช็ดแล้วก็เอาผ้าสะอาดมาเช็ดซ้ำอีกครั้ง

กระนั้นหม้อหุงข้าวก็มีสิ่งที่ควรทราบด้วย คือการใช้ความร้อนเมื่อหม้อเดือดก็ให้ปิดสวิตช์เป็นเวลา 8 – 10 นาที ให้ความร้อนที่เหมาะบนแผ่นความร้อนมีได้เต็มที่ และเมื่อไฟสีแดงดับเป็นไฟสีเหลืองติดเท่ากับว่าข้าวสุกแล้วก็ปิดไฟ และใช้ความร้อนที่มีอุ่นข้าวต่ออีก 10 นาทีด้วย ไม่ควรเอาหม้อประเภทนี้ไปใช้ต้มน้ำเนื่องมาจากการใช้งานจะยาวนานมากกว่า อาจทำให้ก้นหม้อเสียหายได้ และอยากย้ำอีกครั้งว่าหากใช้งานแล้วก็ต้องดูแลทำความสะอาดให้ดีด้วย เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ อายุการใช้งานยืนยาว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0810

9


การใช้งานเครื่องฟอกอากาศพกพาในปัจจุบันนั้นกำลังเป็นที่นิยมเหลือเกินเนื่องด้วยเราสามารถใช้งานเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างสบายใจ พร้อมลดอาการภูมิแพ้ อีกทั้งยังสามารถพกพาไปได้ทุกที่ไม่มีปัญหา แต่หากท่านใดที่ยังไม่มั่นใจ อยากได้รายละเอียดประกอบการตัดสินใจ เราไม่พลาดรวบรวมมาให้ท่านอย่างเจาะลึก

เครื่องฟอกอากาศพกพาช่วยให้อากาศรอบตัวบริสุทธิ์
คงต้องบอกเลยว่าเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำไปใช้ได้กับทุกพื้นที่ที่พร้อมช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการกรองอากาศอย่างดีที่สุด แต่ถ้าขนาดพื้นที่เล็กก็จะช่วยกรองอากาศได้ดี โดยที่สามารถกรอกอากาศได้สูง 5 ขั้นตอน สามารถกรองฝุ่นละอองใหญ่ ๆ ได้ ไรฝุ่น รวมไปถึงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ขนาดเล็ก ชนิดที่กรองอากาศครบจบในเครื่องเดียวเลย การนอนหลับของเราก็จะสบายใจได้ตลอดคืน

ซึ่งบรรดาไรฝุ่น หรือละอองฝุ่นเรียกได้ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ง่ายมาก เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเครื่องช่วยฟอกอากาศนี้สามารถดักจับ และช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้หมดจด ทำให้เราสามารถรับสูดอากาศที่ดีได้ ไม่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงในระบบทางเดินอาหาร

ซึ่งโดยปกตินั้นนอกจากเครื่องช่วยฟอกอากาศจะเป็นเครื่องปกติแล้ว ก็ยังมีการพัฒนาเป็นเครื่องฟอกอากาศห้อยคอด้วย แบบนี้คือนอกจากจะช่วยฟอกอากาศได้ดีแล้ว ก็ยังเป็นอีกเครื่องประดับให้เราด้วยโดยที่พกติดตัวไปได้ตามสบาย ห้องนอนขนาดเล็ก รถยนต์ หรือแม้แต่เดินทางไปไหนเอาใส่กระเป๋าเดินทางได้เลยทันที สะดวกสบาย สามารถชาร์จไฟได้แบบไร้กังวลด้วยสายต่อ USB ที่มีให้ใช้งาน

มีส่วนสำคัญในการกรองฝุ่นและลดภูมิแพ้ได้ดี
และการได้ใช้งานเครื่องช่วยฟอกอากาศนี้ไม่ได้มีดีแค่กรองฝุ่น สารก่อภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการช่วยลดกลิ่นต่าง ๆ ได้ดี สามารถพกไปเพื่อนำไปใช้กรองกลิ่นอับ กลิ่นบุหรี่ได้ด้วยทุกที่ ยิ่งถ้าใครที่มีสมาชิกสูบบุหรี่ด้วยจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่รถก็สามารถพกพาไปใช้งานได้เลย

การันตีว่าเครื่องนี้จะช่วยให้เกิดอากาศบริสุทธิ์อย่างแน่นอน โดยที่เราสามารถใช้ได้จนกว่าแบตเตอรี่จะหมด และถ้าหมดก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เลยทันที ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถนำกลับเอามาใช้ใหม่ได้เลยทันที

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกซื้อเลือกหาเครื่องฟอกอากาศพกพาควรพิจารณาหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการใช้งาน ฟังก์ชันต่าง ๆ ขนาดและความง่ายต่อการพกพา ระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ไปจนถึงการดูแลรักษาที่สามารถทำได้ง่ายมาก การชาร์จไฟสามารถเสียบปลั๊ก หรือใช้สาย USB ได้เลย จะชาร์จที่ยานพาหนะ หรือที่ Power Bank ได้หมด ช่วยลดความกังวลระหว่างใช้งานแล้วแบตเตอรี่จะหมดไม่มีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0203

10


เก้าอี้สนาม” หรืออีกชื่อที่หลาย ๆ คนตั้งให้ว่าเป็นเก้าอี้สารพัดประโยชน์ เพราะเราสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายมาก ถึงกระนั้นสิ่งที่เราไม่อาจละเลยไปได้ก็คือการเลือกใช้เหมาะสมตอบโจทย์รอบด้าน และต้องเลือกอย่างชาญฉลาดเป็นมืออาชีพด้วย เพื่อการเอาไปใช้งานได้ทุกสถานที่ที่ต้องการ แต่จะเลือกยังไง เอาไปใช้ที่ไหนได้บ้างไปติดตามกันดีกว่า

การเลือกเก้าอี้สนามใช้งานกับสถานที่ต่าง ๆ
1. เลือกโดยดูจากวัสดุที่ทำ
อย่างแรกที่เราต้องคิดถึงมาก ๆ ก่อนที่จะเลือกมาใช้งานสักตัวก็คือวัสดุที่จัดทำ ซึ่งต้องตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานด้วย โดยมีให้เลือกหลากหลายทั้ง อะลูมิเนียม สเตนเลสกับนำไปใช้วางปาร์ตี้นอกบ้าน กลางแจ้งที่ทำให้การเคลื่อนที่ง่ายมากขึ้น ทนทานแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี หรือถ้าอยากเน้นตกแต่งสวน นั่งเล่นที่สวนเลือกเป็นเก้าอี้หวายก็สวยงามตัดกับสีหญ้าไปอีกแบบ ช่วยเพิ่มความสวยงามดูมีสไตล์อย่างคาดไม่ถึง

2. เลือกที่มีน้ำหนักเบาเพื่อการเคลื่อนย้าย
ท่านใดที่ให้ความสนใจจะมีเก้าอี้เพื่อใช้ในการเดินป่า ตั้งแคมป์ อยากบอกว่าให้เลือกเป็นเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่าง ๆ คือดีที่สุดแล้ว อย่างเก้าอี้ที่มีน้ำหนักเบาสุด ๆ เพื่อให้ไม่เป็นภาระในการถือไปไหนมาไหนนั่นเอง

3. ขาตั้งเป็นสิ่งสำคัญด้วย
ในการใช้งานเก้าอี้เดินป่านั้นความแข็งแรงทนทานเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาตั้งที่จะมีรอยต่ออยู่ด้วย ไม่ควรให้เกิดปัญหาชำรุดเสียหาย และต้องสามารถรับน้ำหนักได้ดีด้วย ถ้าเป็นรูปแบบที่พับเก็บได้ก็จะดีมาก ๆ และเวลากางออกก็ควรนั่งได้แบบสบายตัว มั่นคง หากต้องนั่งเกร็ง เป็นความกังวลคงไม่ดีแน่นอน

4. เลือกมีที่ฟังก์ชันเสริมได้ด้วย
เราสามารถเลือกใช้ฟังก์ชันให้ได้ดีมาก ๆ โดยที่สามารถเลือกให้สบายต่อเรามากที่สุดก็ได้ อย่างเช่น ที่พักแขน มีครบชุดทั้งโต๊ะ ทั้งเก้าอี้ ช่วยเพิ่มความสบายกับเราได้ด้วย อย่างม้านั่งสนามก็เป็นอีกประเภทเก้าอี้ที่มีฟังก์ชันเสริมดี ๆ ให้เราได้สัมผัสได้เลย นั่งเล่นสบายใจ

5. เลือกที่มีพนักพิง หรือมีเบาะ
เป็นอีกการเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน โดยที่เราควรเลือกให้ที่มีพนักพิง หรือมีเบาะให้เราได้ใช้งาน โดยที่จะช่วยให้เราเกิดความผ่อนคลายมากที่สุด พร้อมกับสถานที่ที่เหมือนได้พักผ่อนกันแบบเต็มที่ สามารถเอาไปใช้ได้ที่ภูเขา เดินป่า ทะเล ฯลฯ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางการเลือกซื้อเก้าอี้สนาม หวังว่าคุณจะสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เลือกได้แข็งแรง ใช้งานได้ดีก็ทำให้เรานั่งเล่นสบายใจ หวังว่าการเดินป่า ไปทะเล หรืออยู่แคมป์นอกสถานที่ ฯลฯ จะผ่านไปได้ราบรื่น สนุกสนาน

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT060503

11


ถ้าหากท่านเป็นคนที่มีความสนใจอยากปลูกผัก ปลูกต้นไม้ในโรงเรือนเพาะปลูก ที่ก็มีความกังวล กลัวว่าจะได้ผลผลิตที่ไม่งอกเงยนัก แล้วกำลังหาข้อมูลช่วยเหลืออยู่ เราไม่อยากให้ท่านต้องล้มเหลวกับผลผลิตจึงจะมาแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์รับรองว่าจะช่วยให้การปลูกมีผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ทำได้ไม่ยากเลยจริง ๆ

สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเมื่อปลูกผัก - ปลูกต้นไม้ที่โรงเรือนเพาะปลูก
1. เลือกชนิดให้เหมาะสม
อย่างแรกที่เราต้องแนะนำก่อนเลยก็คือการเลือกใช้งานประเภทโรงเรือนให้เหมาะ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 5 แบบด้วยกัน ซึ่งต้องอาศัยความร้อน แสง อุณหภูมิต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังเช่น มะเขือ พริก แตงกวา ถั่ว แคนตาลูป หรือพันธุ์พืชเล็ก ๆ หรือจะเลือกกำหนดพรรณพืชที่จะปลูกให้เหมาะสมกับโรงเรือนก็ได้ ช่วยให้ได้ผลผลิตที่น่าสนใจ

2. เลือกพันธุ์ที่ดี
เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามคือการคัดเลือกพันธุ์พืชผัก ต้นไม้ต่าง ๆ ให้ดีที่สุด และพร้อมอำนวยความสะดวกให้พืชได้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น การวางโรงเรือนให้เหมาะสมอยู่ในด้านที่แสงส่องถึง หรือมีอุณหภูมิเพียงพอ ซึ่งการเลือกสรรพันธุ์ที่ดีและมีการดูแลอย่างดี จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้ 10 - 20% ผลประโยชน์ก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่า 10% เลยทีเดียว

3. การกำจัดแมลงในโรงเรือน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโรงเรือนปลูกต้นไม้ หรือผักใด ๆ แล้วก็จะมีแมลงอยู่ด้วย สิ่งที่เราจะช่วยให้ผลิตยังคงเติบโตต่อไปได้ดี ก็คือเรื่องของการกำจัดแมลงโดยที่ต้องใช้วิธีที่ถูกต้องตามการเกษตรได้เลย หากท่านไหนจะใช้สารกำจัดศัตรูพืชแนะนำว่าให้เป็นสารพิษต่ำ และกำจัดได้โดยมีสารตกค้างต่ำในเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในการนำไปประกอบอาหารกินกันต่อไป

4. สูตรการใส่ปุ๋ย
เมื่อเราใช้งานโรงเรือนปลูกผัก - ต้นไม้ใด ๆ ก็ตาม ท่านสามารถใส่ปุ๋ยขั้นพื้นฐานได้เลย เพื่อเป็นหลักประกันสำคัญในการเพิ่มผลผลิตที่ดีมากว่าถึง 1 - 2 หมื่น และเบสที่ถือว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ถึง 1 - 2 หมื่นเช่นกัน นอกจากนี้ ยังต้องมีการจับคู่ปุ๋ยเคมีที่ออกฤทธิ์ได้เร็วเพื่อผลผลิตในระยะยาวด้วย โดยถามว่าปุ๋ยที่ออกฤทธิ์เร็วมีอะไรบ้าง?? ส่วนมากก็จะเป็นสารประกอบไดแอมโมเนียมฟอสเฟต และเทอร์นารี รวมถึงธาตุโมลิบดีนัม เหล็กโบรอน แคลเซียมกำมะถัน และธาตุอื่น ๆ ทั้งนี้ หากท่านใดใช้ปุ๋ยในช่วงติดผล จำเป็นต้องล้างปุ๋ยด้วยน้ำอีกจำนวนหนึ่งก่อนเสมอ

แม้กระนั้น ในการใช้งานโรงเรือนเพาะปลูกเพื่อพืชผัก หรือต้นไม้ใด ๆ แล้ว อาจจะมีการใช้งานฟิล์มครอบคลุมโรงเรือน เพื่อช่วยลดแสงแดดให้มาถึงพืชพรรณน้อยลง ช่วยลดความชื้น และสภาวะที่เกิดขึ้นของโรคในเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพขั้นสุด ช่วยให้ดินมีอุณหภูมิที่ดีขึ้น ผลผลิตที่ได้ก็จะเป็นไปในทางที่คุณต้องการ

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0209

12


หากท่านเป็นคนที่โปรดปรานการดื่มกาแฟเอามาก ๆ แต่ก็แอบมีความขี้เกียจเมื่อต้องไปต่อคิวซื้อจากร้านกาแฟ ทั้งที่จริงท่านสามารถเลือกใช้อีกหนึ่งตัวช่วย อย่าง “แคปซูลกาแฟ” ได้แล้ว ต้องพูดเลยว่าพร้อมช่วยให้การดื่มกาแฟของคุณสะดวกมากขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น ได้รสชาติหอมอร่อย ราวกับเข้าร้านมือชงอันดับ 1 เลยทีเดียว

ความน่าสนใจของการใช้งานแคปซูลกาแฟ
บางท่านมีความสนใจดื่มกาแฟสดกันมากมาย แต่ก็แอบมีข้อเสียอยู่ตรงที่ราคาค่อนข้างสูง หากจะนำมาดื่มกินในทุก ๆ คนก็คงเป็นอีกค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง และยังต้องมาเสียเวลารอกาแฟจากร้านชงไปอีก กระนั้นหากท่านตกลงใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แคปซูลชนิดกาแฟแล้วบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง เนื่องด้วยด้วยเวลาที่เร่งรีบเราไม่ต้องมารอกาแฟแต่อย่างใด เราสามารถนำเอาแคปซูลใส่เข้าเครื่องแล้วรอให้เครื่องจัดการเป็นกาแฟไหลลงมาในแก้วได้เลย

ทั้งนี้ยังสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ด้วย เรื่องรสชาติก็คงไม่ต้องพูดถึง เนื่องมาจากเป็นการดื่มที่แสนอร่อยมาก ๆ เพียงเลือกรสชาติที่ถูกปาก ไม่จำเป็นต้องมาชั่ง ตวง วัดใด ๆ ให้ยุ่งยาก ด้วยความที่ถูกออกแบบมาเป็นลักษณะแคปซูล มีการชั่ง ตวง วัดใส่มาให้เป็นที่เรียบร้อย ครบสูตรมาก ๆ หยิบเอาเข้าเครื่องลงแล้วกดปุ่มการทำงานได้เลย

สะดวก ใช้งานง่าย เลือกแบรนด์และรสชาดได้ตามชอบ
นอกจากนี้ อีกสิ่งที่เราไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือเครื่องชงกาแฟแคปซูล แนะนำเลยว่าท่านไหนที่ต้องการใช้งานก็แค่กดปุ่มการทำงานแค่นั้น ก็ทำให้เครื่องสามารถเติมกาแฟได้ตลอดแล้วตามที่เราต้องการ ที่สำคัญสามารถกำหนดปริมาณน้ำให้เราได้ไปอีก ได้รับความเข้มข้นสมใจเข้ากับแต่ละสูตรที่มี ในขณะที่บางท่านชงเองบางครั้งก็ใส่น้ำเยอะมากเกินไปเสียรสชาติกาแฟไปได้ง่าย ๆ

ถ้าใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกแคปซูลยี่ห้อไหน เครื่องทำกาแฟแบรนด์ไหน จริง ๆ แล้วกาแฟแคปซูล nespresso ถือเป็นความคุ้มค่าที่เราควรต้องสัมผัสด้วยตนเองเลยจริง ๆ เนื่องด้วยจะมีความกลมกล่อมในเรื่องรสชาติ กลิ่นหอมกรุ่นยวนใจ มีหลากหลายสูตร หลากหลายรสชาติให้เราได้สัมผัสในราคาที่ถูกมาก ส่วนเครื่องของยี่ห้อนี้ก็ออกมาให้ทำงานได้หลากหลาย ใช้เวลาเพียง 1 นาทีก็ได้กาแฟดื่มกินกันแล้ว ราคาเครื่องเริ่มต้นที่หลักพันบาทเท่านั้นด้วย

ต้องบอกเลยว่าการใช้งาน แคปซูลกาแฟเป็นหนึ่งในความคุ้มค่าที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ เพียงเลือกรสชาติ เลือกสูตร เลือกยี่ห้อ อย่างของ nespresso รับรองว่าการดื่มกาแฟในช่วงเวลาก่อนไปทำงาน หรือระหว่างวันจะเป็นเรื่องง่ายๆ และช่วยให้การทำงานของคุณ ๆราบรื่นมากขึ้น เพราะเมื่อสมองปลอดโปร่งคิดอะไรก็ดีไปหมด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080202

13


เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามีหลายบ้ายคงจะมีกระทะปิ้งย่างไว้ใช้งานกันอยู่ เหมือนกับมีร้านหมูกระทะอยู่ในบ้าน แต่คุณรู้หรือเปล่าว่ากระทะประเภทนี้มีการเคลือบด้วยเทปล่อน ซึ่งถือเป็นสารเคลือบที่ช่วยให้การปิ้งย่างของเราง่ายมากขึ้น ไม่ติดกระทะ และการใช้งานให้ถูกหลักก็จะช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น แต่จะต้องใช้เช่นไรให้เหมาะสม เรามีมาบอกอีกเช่นเคย
กระทะปิ้งย่างเคลือบเทปล่อนใช้ให้ถูกหลัก อายุการใช้งานยาวนาน
ก่อนสิ่งอื่นใดต้องขออธิบายถึงสารเคลือบเทปล่อนที่มีโดยเฉพาะที่ใช้เป็นเตาปิ้งย่างไฟฟ้า โดยมีสารเคลือบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- FEP ที่เป็นสารเคลือบผิวลื่นที่สามารถหลอมตัวและไหลเทจัดเรียงตัวในระหว่างการอบเตา เพื่อเอาไว้สร้างเป็นฟิล์มกันน้ำ โดยที่ทนทานต่อสารเคมี มีการขัดสีต่ำ มีคุณสมบัติการเกาะติดได้สูงสุด 205 องศาเซลเซียส
- PTFE เป็นสารที่เคลือบผิวลื่นแบบระบบสองชั้น และสามชั้น โดยที่มีความสามารถในการทนทานต่อความร้อนสูงสุดถึง 260 องศาเซลเซียส โดยที่มีความทนทานต่อการกัด
- ETFE สารที่ผสมระหว่าง PTFE กับเอทิลีน ที่จะมีความทนทานต่อสารเคมี มีความสามารถทนทานต่อความร้อนได้ 150 องศาเซลเซียส โดยที่มีความเหนียว ทนทานมาก
- PFA เป็นสารเคลือบที่จะละลาย และจัดเรียงสารฟลูออโรโพลิเมอร์ที่อยู่ระหว่างการอบเตา โดยที่สามารถทนทานต่อความร้อนได้ 260 องศาเซลเซียส มีความทนทาน เคลือบให้เกิดความหนาของฟิล์มถึง 1,000 Micrometers

วิธีใช้งานเตาเคลือบสารเทปล่อนให้ดีต่อสุขภาพ
ส่วนวิธีใช้งานเตาหมูกระทะไฟฟ้าแบบเคลือบสารเทปล่อนนั้นจริง ๆ ควรมีการอ่านคู่มือที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานก่อน เพื่อให้ทราบถึงวิธีการใช้ และรู้ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม ปลอดภัย โดยแนะนำว่าในการปรุง หรือใช้งานปิ้งย่างควรใช้ไฟสูง 204 – 243 องศาฟาเรนไฮต์ (หากเป็นการใช้งานปรุงอาหารควรใช้ไฟระดับปานกลาง – ต่ำ ความร้อนไม่เกิน 500 องศาฟาเรนไฮต์)

ทั้งนี้ หากเป็นการปรุงอาหารที่ต้องใช้อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส ขึ้นไปไม่ควรใช้สารเคลือบเทปล่อน ให้ใช้เป็นแก้วทนความร้อนหรือกระเบื้องแทน และหากใช้งานกระทะสารเคลือบเทปล่อน ควรเปิดหน้าต่างและใช้พัดลมดูดอากาศเพื่อช่วยป้องกันการหายใจเอาก๊าซที่เป็นสารพิษเข้าสู่ร่างกาย เป็นการระบายสารออก

การใช้งานกระทะปิ้งย่างนอกจากจะช่วยไม่ให้อาหารติดกระทะแล้ว ยังทนต่อแสงยูวี ทนทานต่ออุณหภูมิต่าง ๆ เหมาะกับการปิ้งย่างด้วย และเอามาใช้ปรุงอาหารได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันได้ ทำความสะอาดง่ายๆ ใครที่จะซื้อไว้ใช้งานอย่ารอช้าที่จะเลือกกระทะประเภทนี้เลยจริง ๆ ยิ่งใช้ถูกวิธีก็ช่วยยืดอายุการใช้งานไปอีก

กดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0807

14


สมัยนี้การดูหนังที่บ้านไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยเหตุว่าเราสามารถหาจอมอนิเตอร์เพื่อมาเปิดใช้งานได้เลยตามต้องการ กระนั้นการที่จะได้จอที่เหมาะ ตอบสนองความต้องการก็อาจจะยากสำหรับบางคนที่เพิ่งจะซื้อเป็นครั้งแรก และเราไม่ต้องการให้ท่านต้องเป็นกังวล มีวิธีการเลือกเพื่อการรับชมความบันเทิงครบรสมาบอกต่อ รับรองว่าการดูจอเงินที่บ้านของท่านจะเยี่ยมยอดมาก

วิธีการเลือกจอมอนิเตอร์ดูหนัง เพื่อความบันเทิงครบรส
1. ตรวจสอบคอนทราสต์ที่ลุ่มลึก
ประการแรกในการเลือกซื้อจอมาใช้เพื่อดูภาพยนตร์สักเครื่องนั้นเราจำเป็นต้องเลือกหน้าจอที่มีความบันเทิงแบบเต็มที่ได้จากคอนทราสต์ที่มี ก็คือความมืดความสว่างที่เกิดขึ้นทางหน้าจอ โดยที่อัตราส่วนจะมีการแสดงผลที่ต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่คอนทราสต์สูงจะมีหน้าจอไล่สีในมิติที่เห็นพื้นผิวต่าง ๆ ชัดเจน และรักษาความต่างของรายละเอียดในพื้นที่มืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยป้องกันฉากสว่างจะถูกกลืนหายไปหมดด้วย

2. สีสันที่ช่วยสร้างอรรถรสการรับชม
เรื่องของสีสันจอ monitor ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลยจริง ๆ ไม่ว่าการเปิดหนังผ่านทาง YouTube, ช่องสตรีมมิ่งบน NETFLIX หรือบน Blu-Ray ก็ตาม จำเป็นต้องที่จะต้องมีสีสันที่สดใส เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกนั้น ๆ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่จอที่ดีมีคุณภาพจะแสดงผลของสีออกมาเพื่อให้การมองเห็นเป็นไปอย่างดีที่สุด โดยมีการวัดระดับสีสากลด้วย อย่าง sRGB, DCI-P3 และ Rec. 709 โดยที่จะมีการแสดงจำนวนรวมสีทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา ผลแสดงสีกว้างก็ทำให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น เพิ่มอรรถรสการรับชมได้มากขึ้น ซึ่งสีหนังจะปรับให้ต่างจากสีในโทรทัศน์ การเลือกจอจึงค่อนข้างสำคัญมาก

3. การตัดขอบ HDR
จุดท้ายหากเป็นการเลือกจอเพื่อดูหนัง หรือแม้แต่เลือกจอคอมพิวเตอร์ดูภาพยนตร์ก็ตาม เรื่องการตัดขอบ HDR สำคัญมาก ๆ เหตุเพราะจะช่วยให้เราได้จอที่มีความละเอียดสูง ส่งผ่านช่วงสีทั้งหมดได้อย่างดี รวมทั้งระดับของการรับรู้เรื่องราวก็เข้าใจมากขึ้น หากใครที่เลือก HDR ที่ขยายสเปกตรัมของสีสัน เพิ่มความสว่างมากขึ้นก็จะได้ความใกล้เคียงกับชีวิตจริงมาก ๆ และยังทำให้องค์ประกอบของวิดีโอดูคมชัดเสมือนดูจากต้นฉบับที่ถูกรักษาภาพเอาไว้อย่างดีแม่นยำ

การรับชมภาพยนตร์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดมากขึ้นหลังจากทำงานมาเหนื่อย ๆ ยิ่งเราได้เลือกจอมอนิเตอร์ที่พอเหมาะ ตอบโจทย์ ก็จะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้มากขึ้น รับประกันเลยว่าไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ได้ดูกันเพลิน ๆ ลืมความกังวลที่เคยมีไปได้ไม่มากก็น้อย

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA1101

15


ถือว่าเป็นอีกเครื่องครัวที่หลาย ๆ ครอบครัวมีใช้งานเลยก็ว่าได้กับ “หม้อทอด” ที่สามารถสร้างสรรค์ให้เราได้หลากหลายเมนูตามที่ต้องการ อุ่นอาหารก็ง่ายไปอีก กระนั้นการที่หลาย ๆ คนมีใช้งานอยู่นี้บางคนที่ยังไม่มีอาจเกิดความสงสัยได้ว่าทำไมถึงต้องมีใช้งาน หนึ่งในนั้นก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคที่บอกเลยว่าคุณ ๆเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้หรือเปล่า!!

เปิดพฤติกรรมของผู้บริโภคกับการมีหม้อทอดใช้งาน
ต้องพูกเลยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นเป็นอีกสิ่งที่สามารถบอกเราได้ถึงความสนใจในการเลือกใช้งานหม้อชนิดนี้ ซึ่งคำว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจริง ๆ แล้ว สามารถขยายตัวออกเป็นวงกว้างได้ และอาจแยกออกเป็นหลาย ๆ ส่วนไม่ว่า
1. ความสะดวกสบายในการใช้งาน
แน่นอนว่านี่จัดเป็นอีกนวัตกรรมที่มากกว่าส่วนบุคคลไปแล้ว เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นใคร เพศไหน ช่วงวัยเท่าไหร่ก็สามารถหยิบจับใช้งานได้ ด้วยขั้นตอนการใช้งานที่ง่ายๆ สะดวกรวดเร็ว ได้อาหารที่ต้องการรับประทานกันอร่อย ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวผลิตภัณฑ์ที่แค่ใส่ลงไปในหม้อก็สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนูแล้ว ไม่ใช่ต้องมาติดเตา ตั้งกระทะ แล้วจึงค่อยลงทอด ฯลฯ

2. กระแสที่ดีต่อคนรักสุขภาพ
สำหรับหม้อทอดไฟฟ้านี้นั้นเป็นปัจจัยที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่เราสามารถทอด อุ่นอาหารได้โดยที่ไม่ทิ้งน้ำมันตกค้างอีกต่อไป โดยที่จะช่วยลดความมันโดยเฉพาะไขมันเลวได้อย่างดี แล้วยิ่งมีวิธีการใช้งานที่ไม่ยากแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งเข้าถึงได้เต็มประสิทธิภาพขั้นสุด

3. ภาพพจน์บางอย่าง
หม้อทอดไร้น้ำมันก็เป็นอีกเครื่องครัวที่ทำให้คนใช้งานเกิดภาพพจน์ได้ด้วยเช่นกัน เนื่องมาจากด้วยการบ่งบอกว่าเป็นการใช้งานเพื่อสุขภาพ หรือความสะดวกสบายในการใช้งาน อย่างนั้น จึงไม่แปลกหากการมีใช้งานจะเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เป็นความภาคภูมิใจที่สามารถทำอาหารทานเองได้ง่าย ๆ ดูอาหารน่าทานเพิ่มมากขึ้น

ถึงอย่างไร การใช้งานหม้อชนิดนี้ครั้งแรกก็จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องทราบหลักการใช้ที่เหมาะด้วย ไม่ว่าจะการตรวจเช็กอุปกรณ์ก่อนใช้ การแกะสติ๊กเกอร์ออกให้หมด โดยที่ก่อนใช้ต้องวอร์มเครื่องก่อนด้วยเพื่อเป็นการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่มาจากพลาสติกสารเคมี อย่าลืมวอร์มหม้อด้วยการอบหม้อเปล่า โดยให้ใช้อุณหภูมิความร้อน 200 องศา และให้อยู่ในเวลา 10 - 15 นาที จะมีกลิ่นเผาไหม้กลิ่นใหม่ออกมาเป็นการใช้งานแบบปกติ

และเมื่อเราใช้งานหม้อทอดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญมาก คือการทำความสะอาดที่พอเหมาะ ไม่ควรลืมล้างด้วยน้ำยาล้างจานและฟองน้ำโดยห้ามใช้ฝอย หรือฟองน้ำแข็ง ๆ ขัดทั้งนี้เพราะจะทำให้วัสดุเทปล่อนหลุดออกมาได้ อายุการใช้งานก็จะสั้นลง จากนั้นล้างให้หมดจด เอาไปผึ่งในที่ร่มลมพัดถ่ายเทสะดวกเพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080503

Pages: [1] 2 3 4