ทองปรับฐาน"ขาลง"รอบใหญ่ ผวาวิกฤติหนี้ยุโรป หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว นายกสมาคมค้าทองแนะลงทุนสั้นรอลุ้น 1,550 ดอลลาร์/ออนซ์
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า การที่ราคาทองคำแท่ง ปรับตัวลง โดยในต่างประเทศลดลง 35-40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ในประเทศลดลง 400 บาทต่อบาททองคำนั้น เป็นเรื่องของการเก็งกำไร และราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานขาลงครั้งใหญ่ ซึ่งคงต้องติดตามว่าจะปรับลงอย่างรุนแรงหรือทยอยปรับลง แต่ระยะสั้นยังเป็นขาลง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว ล่าสุดอยู่ที่ 1,595 ดอลลาร์ต่อออนซ์
"ราคาทองที่ลดลงมา 30-40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อวันนั้น ถือว่าปรับตัวเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมา ในวันเดียวเคยปรับตัวลงถึง 200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การปรับขาลงครั้งนี้ต้องดูว่าจะปรับลงรุนแรงหรือทยอยปรับ เพื่อเป็นการสร้างฐานราคาใหม่ และการปรับตัวลงหลุด 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะทำให้ราคาปรับลงไปถึง 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และต่ำสุดอาจได้เห็นถึง 1,500 ต้นๆ ซึ่งจุดนี้สามารถเข้าลงทุนได้แต่ระยะสั้นให้เก็งกำไรไม่ควรถือลงทุนระยะยาว" นายกสมาคมค้าทองคำกล่าว
เขากล่าวว่าช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลง และทรงตัวระยะหนึ่ง ทำให้ตลาดอนุพันธ์ซบเซา โดยเฉพาะสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ ฟิวเจอร์ส) ขนาด 50 บาท วอลุ่มน้อยลง เนื่องจากที่ผ่านมา นักลงทุนขาดทุน เนื่องจากนิยมการลงทุนเฉพาะขาขึ้น เมื่อราคาทองอ่อนตัวลงทำให้ขาดทุนกัน จึงชะลอการลงทุนวอลุ่มในสินค้าดังกล่าวจึงซบเซา แต่เมื่อราคาทองคำมีการอ่อนตัวขึ้นลงแรง เชื่อว่า ภาพรวมการซื้อขายในโกลด์ ฟิวเจอร์ส ก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกทรุดตัวหนัก เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Gold Spot) ราคาทองปรับลดลงจากผลของปัญหาทางการเมืองประเทศกรีซกับฝรั่งเศสหลังผลการเลือกตั้งสะท้อนความไม่พอใจในการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และอาจจะนำไปสู่ความยากลำบากต่อการแก้ไขวิกฤติหนี้ยุโรปในอนาคต ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในยุโรป เงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่องเทียบสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบลดลงกดดันราคาทองคำ SPDR มีการถือครองที่ระดับ 1,274.99 ตัน คงที่ ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 23,450 บาท ราคาเสนอขาย 24,550 บาท
"แนวโน้มทองคำ น่าจะอ่อนตัวจากความเสี่ยงในปัญหาหนี้ยุโรปรวมถึงความยากลำบากในการหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งส่งผลต่อสกุลเงินยูโรที่ใช้กันใน 17 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนในทางลบทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้นในอนาคต จึงเกิดแรงขายทองคำออกเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนตัวของราคาเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ในระยะกลางยังคงมองว่าความผันผวนในตลาดเงินจะส่งผลต่อความมั่นใจในการถือครองสกุลเงินและหันมาถือครอง Real asset อย่างทองคำเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแนวทางในการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ" นายกมลธัญกล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
